ตามที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) และได้ให้สัตยาบันตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ในปี พ.ศ.2558 ที่จะมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas: GHC) ลงร้อยละ 20 จากกรณีปกติภายในปี พ.ศ.2573 เมื่อเทียบกับปีฐาน (พ.ศ.2550)
หนึ่งในมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศในสาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ (Industrial Processes and Product Use: IPPU) คือ การกำหนดให้ใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ดในการผลิตปูนซีเมนต์ เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจก
ซึ่งโดยปกติการผลิตปูนซีเมนต์จะมีกระบวนการเผาวัตถุดิบเพื่อเปลี่ยนให้เป็ฯปูนเม็ด ซึ่งเป็ฯขั้นตอนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาประมาณ 800 kg-CO2 ต่อตันปูนเม็ด ทางผู้ผลิตปูนซีเมนต์จึงนำวัสดุที่ใช้แทนปูนซีเมนต์มาเป็นส่วนผสมเพื่อทดแทนปูนซีเมนต์บางส่วน เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ เรียกว่า “ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก” (Hydraulic Cement)
ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก เป็นปูนซีเมนต์ที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.2594-2556 โดยมีความคล้ายคลึงกับมาตรฐาน ASTM C1157 ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ความแตกต่างระหว่างมาตรฐาน มอก.15-2555 สำหรับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และมาตรฐาน มอก.2594-2556 สำหรับปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก อยู่ในข้อกำหนดในการควบคุมเป็ฯหลัก กล่าวคือ
- มอก.15-2555 เน้นควบคุมที่คุณลักษณะทางเคมีและฟิสิกส์ของปูนซีเมนต์
- มอก.2594-2556 เน้นควบคุมที่คุณสมบัติและประสิทธิภาพของปูนซีเมนต์
สรุป
สำรับสังคมและสิ่งแวดล้อมนั้น ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยลดสภาวะเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว และก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และวงการก่อสร้างในอนาคต แหล่งอ้างอิง : สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย